Last updated: 11 มิ.ย. 2564 | 1607 จำนวนผู้เข้าชม |
เชื่อว่าทุกคนคงเคยเป็นไข้ แต่ไม่ใช่ทุกคน ที่เคยเป็นไข้แล้วมีผื่นขึ้น ซึ่งผื่นเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นจากอาการร้อนในตัว ที่ทำให้มีผื่นขึ้น, เป็นจากเชื้อไวรัส ที่ทำให้เส้นเลือดเปราะบาง จนเม็ดเลือดแดงรั่วซึม มองเห็นเป็นจุดผื่น หรือบางครั้งเป็นจากการติดเชื้อ ที่ผิวหนังโดยตรง ซึ่งมีบางโรคที่คุณอาจยังไม่รู้ว่า นอกจากทำให้มีไข้แล้ว ยังทำให้ผื่นขึ้นได้เหมือนกัน
เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ Group A Streptococcus, Staphylococcus aureus ช่วงแรกอาจมีไข้นำมาก่อน หรือบางคนเป็นไข้พร้อมกับผื่นขึ้น เนื่องจากเป็นการติดเชื้อในชั้นหนังแท้ ผื่นจึงลุกลามได้อย่างรวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่ง
นอกจากการใช้ยาฆ่าเชื้อแบบฉีดหรือทานแล้ว ยังมีวิธีแก้ร้อนในร่างกาย ที่อาจช่วยดูแลแบบประคับประคองได้ คือการใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเย็นประคบ อาจใช้ร่วมกับการทานยาคูลแคป เพื่อช่วยบรรเทาไข้ และระบายความร้อนในร่างกาย
เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่มียุงลายเป็นพาหะ พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้มีไข้สูงได้นานเป็นสัปดาห์ และมีผื่นแดงเล็ก ๆ ขึ้น อาการทั่วไปอาจคล้ายโรคไข้เลือดออก แต่จะสังเกตว่า โรคไข้แล้วมีผื่นขึ้นชนิดนี้ ทำให้มีผื่นขึ้นตั้งแต่ช่วงที่มีไข้ ในขณะโรคที่ไข้เลือดออก มักมีผื่นขึ้นหลังจากไข้ลงแล้ว
และอาการที่เด่นที่สุดของโรคนี้ คือมีอาการปวดข้อ ทำให้ข้ออักเสบมาก ปวดบวมมากจนขยับไม่ได้ และอาจทำให้ข้ออักเสบเรื้อรังได้อีกเป็นปี ซึ่งหากรับประทานคูลแคป ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด อาจช่วยลดการหลั่งสารอักเสบ และช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใส (Varicella-Zoster Virus) มักมีอาการรุนแรงมากในผู้สูงอายุ โดยทำให้มีอาการร้อนในตัว, เป็นไข้ ร่วมกับผื่นขึ้น โดยผื่นเป็นชนิดตุ่มน้ำพอง ที่ขึ้นตามแนวเส้นประสาท ทำให้เจ็บปวดได้มากเลยทีเดียว
มักพบในเด็กช่วงอายุ 5-15 ปี เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดไข้สูง แล้วมีผื่นแดงนูนเล็ก ๆ ตามมา และมีคออักเสบหรือต่อมทอนซิลอักเสบร่วมด้วย ซึ่งเมื่ออาการเริ่มดีขึ้น อาจเห็นว่ามีการลอกของผิวหนังที่เกิดผื่นได้ วิธีแก้ร้อนในร่างกายที่ได้ผล คือการเช็ดตัวลดไข้อย่างสม่ำเสมอ หรือการรับประทานคูลแคป เพื่อช่วยระบายความร้อน
การติดเชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus, HIV) เกิดจากการได้รับเชื้อ ผ่านทางเลือดและสารคัดหลั่งต่าง ๆ หากผู้ได้รับเชื้อมีภูมิคุ้มกันที่ดี จะเรียกว่าเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี แต่เมื่อเข้าสู่ระยะที่ภูมิคุ้มกันต่ำลง และมีโอกาสติดเชื้อฉวยโอกาส (Opportunistic Infection) จะเรียกว่า เป็นโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสเป็นไข้แล้วมีผื่นขึ้นได้ โดยผื่นเกิดได้หลายรูปแบบ แต่แบบที่เฉพาะเจาะจงที่สุด จะเป็นผื่นคล้ายตุ่มยุงกัดมีสีคล้ำ กระจายอยู่ทั่วตัว (Pruritic Papular Eruption, PPE)
ถ้าไม่อยากเป็นไข้ หรือเสี่ยงกับผื่นจากไข้ ให้คูลแคปช่วยดูแลร่างกายคุณอย่างต่อเนื่องในทุกวันสิคะ เพราะคูลแคปเลือกใช้สารสกัดจากสมุนไพรแท้ 100% ที่พิสูจน์ด้วยงานวิจัยมากมายแล้วว่า สามารถช่วยดูแลร่างกายคุณได้ในหลายระบบ โดยเฉพาะบรรเทาไข้ มีความปลอดภัย ใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ผลิตด้วยขั้นตอนที่ได้มาตรฐานระดับ GMP Asian
อาการไข้แล้วมีผื่นขึ้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากความร้อนที่มากไปในร่างกาย, การติดเชื้อแบคทีเรีย, ไวรัส, เชื้อรา หรือโปรโตซัว ทำให้เกิดผื่นได้ในหลายรูปแบบ ทั้งแบบเป็นจุดเล็ก, เป็นปื้นแดง, เป็นตุ่มน้ำ หรืออาจเป็นรอยดำคล้ายยุงกัดก็ได้ ถ้าอยากมั่นใจว่า ร่างกายจะสามารถต่อสู้กับโรคร้ายได้ในทุกวัน ไม่ต้องเสี่ยงกับการเป็นไข้ที่ทำให้มีผื่น แนะนำให้รับประทานคูลแคปวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น สำหรับผู้ใหญ่ครั้งละ 2 เม็ด ส่วนเด็กครั้งละ 1 เม็ด แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในหญิงตั้งครรภ์นะคะ
17 ส.ค. 2564