Last updated: 17 มิ.ย. 2564 | 5698 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจุบันนี้หากใครมีอาการป่วย ไม่สบายเล็กน้อย คงเริ่มจากการดูแลตัวเองก่อน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนมากขึ้น การเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ บางคนอาจเลือกใช้ยาแผนปัจจุบัน แต่บางส่วนอาจกังวลเรื่องสารตกค้างในยา จึงหันมาสนใจการใช้สมุนไพรตำรับไทยกันมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ยาสมุนไพรสำเร็จรูป เพราะตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ อย่างการใช้ยา Koolcapp มีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพมากมาย เพราะคัดสรรสมุนไพร ตามข้อมูลการรักษาที่ปรากฏในงานวิจัย และตำรับยาของแผนไทยร่วมกัน
มีหลักฐานในศิลาจารึกของอาณาจักรขอม ปรากฎว่า มีการรักษาด้วยการแพทย์แผนไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 1725-1729 มีการสร้างอโธคยาศาลา เพื่อรักษาโรค มีการประกอบพิธีกับอาหารและยา เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนได้ใช้รักษา และบำรุงร่างกายตัวเอง จากนั้นเริ่มมีการเลือกใช้ยาดีจากต่างประเทศ เช่น อินเดีย, เปอร์เซีย, ญี่ปุ่น มาผสมผสานเข้ากับสมุนไพรเดิมของไทย เก็บรวบรวมเป็นตำรับยาไทย เช่น ตำรับยาสมุนไพรแก้ไข้, ตำรับยาแก้เจ็บคอ, ตำรับยาขับลม ดังจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) และยังคงใช้เป็นต้นแบบสืบมา จนรวมอยู่ในการรักษาของแพทย์แผนไทยในปัจจุบัน
ใช้บรรเทาไข้, รักษาไข้เปลี่ยนฤดู, ลดอาการตัวร้อน (ยาจันทน์ลีลา ในตำราเวชศึกษาแพทย์ศาสตร์สังเขป ของพระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ.127)
ใช้ในตำรับยาสมุนไพรแก้ไข้ทับระดู (ตำรับยาวัดโพธิ์)
ใช้แก้ลมวิงเวียน, คลื่นไส้อาเจียน, แก้ลมปลายไข้ (ยาหอมนวโกฐ)
ใช้แก้วาโยกำเริบ, แก้จุกเสียด, บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ (ยาประสะเจตพังคี และยาวิสัมพยาใหญ่ ในตำรายาของพระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ.127)
บำรุงเลือด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต (ตำรายาเกร็ด)
ใช้บรรเทาอาการไอ, ขับเสมหะ (ยาอำมฤควาที ในตำรายา ของพระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ.127)
นำยาปลูกธาตุไฟละลายน้ำส้มซ่า เพื่อปรับธาตุไฟ ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น รวมถึงใช้กระตุ้นน้ำนมในหญิงหลังคลอดได้ (ตำรายา ของพระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ.127)
ใช้แก้โรคลม, บำรุงหัวใจ (ยาอินทร์ประสิทธิ์ จากศิลาจารึกวัดโพธิ์ )
ใช้แก้ลมกองละเอียด เช่น อาการหน้ามืดตาลาย, ใจสั่น (ยาหอมเทพจิตร ในตำรายา ของพระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ.127)
รักษาอาการท้องผูก, แก้ท้องอืด, ท้องเฟ้อ (ยามหาอำมฤต ตำราเวชศาสตร์ฉบับหลวงรัชกาลที่ 5 เล่ม 1)
แก้โทสันทฆาต หรือขับของเสีย ขับพิษในลำไส้ใหญ่ ทำให้เลือดลมเดินสะดวก (ยาวาตาประสิทธิ ตำรายาพระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์)
ใช้รักษาอาการท้องผูก และระบายพิษไข้ในเด็ก (ยาตรีหอม ในตำรายา ของพระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ.127)
ใช้แก้ลมอัมพฤกษ์ ลมที่ทำให้รู้สึกเจ็บทั่วร่างกาย (ยาแก้ลมอัควารันตวาโย จากศิลาจารึกวัดโพธิ์)
ใช้พอกแก้อาการอักเสบ จากการเป็นแผลเรื้อรัง, แผลจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้
ใช้แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย, แก้ปวดเส้นเอ็น, แก้เอ็นยึด
สารสกัดจากสมุนไพรทั้ง 4 ชนิด ถูกนำมาปรุงอยู่ในยาตำรับไทยหลายขนาน หากอ้างตามเหตุผลจากงานวิจัย จะพบว่า พืชที่ Koolcapp เลือกใช้ มีสารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพหลายชนิด ทำให้ Koolcapp มีสรรพคุณ ในการดูแลร่างกายที่หลากหลาย
ช่วยลดการอักเสบของอวัยวะภายใน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วยต่าง ๆ
บรรเทาไข้, ไข้ทับระดู, แก้หวัด ด้วยยาจากตำรับยาสมุนไพรแก้ไข้
ใช้คูลแคปแก้ร้อนใน ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
แก้เจ็บคอ, ขับเสมหะ, ลดอาการระคายเคือง
ขับเหงื่อ, ขับสารพิษออกจากร่างกาย ที่อาจทำให้เกิดโรคได้
ช่วยระบายความร้อน เพราะคูลแคปแก้ร้อนในร่างกาย ช่วยลดอุณหภูมิภายในได้
ดูแลสมดุลในร่างกาย ปรับธาตุร้อน-เย็นให้เป็นปกติอีกครั้ง
สมุนไพรไทย ถูกนำมาใช้ดูแลสุขภาพตั้งแต่โบราณ โดยถูกบรรจุไว้เป็นส่วนประกอบ ในตำรับยาของแผนไทย Koolcapp จึงได้คัดสรรสมุนไพรชั้นดีมารวมไว้ด้วยกัน เพื่อให้ Koolcapp มีสรรพคุณ ในการดูแลร่างกายที่หลากหลาย ทั้งบรรเทาไข้, แก้เจ็บคอ, ขับเสมหะ, แก้ร้อนใน, ใช้บรรเทาอาการท้องผูก, ขับเหงื่อ, ขับปัสสาวะ เพื่อระบายสารพิษตกค้างออกจากร่างกาย ช่วยให้สมดุลภายในดีขึ้นได้
“ Koolcapp (คูลแคป) เป็นยาสมุนไพร ที่ใช้วิถีทางแห่งธรรมชาติดูแลคุณ รับประทานง่ายไม่ยุ่งยาก ได้มีสุขภาพดีอย่างปลอดภัย สบายใจ เพราะไร้สารเคมีตกค้าง ”
[1] รายการตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ ฉบับ พ.ศ. 2561: กระทรวงสาธารณสุข (2561)
[2] ประมวลสรรพคุณสมุนไพรไทย 2: กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, กองทุนภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข (2560)
[3] บัญชีรายการทรัพยากรชีวภาพพืชสมุนไพร จังหวัดระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา: สํานักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (2561)
[4] โครงการสำรวจความหลากหลาย และภูมิปัญญาสมุนไพร สำหรับสุขภาพระดับชุมชน จ.เชียงราย น่าน เชียงใหม่ ลำปาง 2561: สํานักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (2561)
[5] พืชสมุนไพรที่พบในป่าครอบครัว ในจังหวัดตาก กำแพงเพชร และพิจิตร: สํานักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (2561)